ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ฟอร์มดุ บุกกระหน่ำ เซลต้า 4-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงลีก
เมื่อคืนที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา เริ่มเกมเพียง 14 นาที ทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลในเขตโทษของ Renato Tapia ผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วยืนยันคำเดิม ก่อนที่ Karim Benzema จะเข้าสังหารโดยไม่พลาด ทางทีมเยือน เรอัล มาดริด นำ 1 ประตูต่อ 0 ในนาทีที่ 23 เจ้าบ้าน เซลต้า บีโก้ ได้จุดโทษคืนจากจังหวะ Gonzalo Pasiancia โหม่งไปโดนแขนของ Adair Militao ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินหยิบนกหวีดเป่าทันที และเป็น Iago Aspas ที่เป็นคนซัดบอลเข้าไปนอนก้นตาข่าย ทำให้เจ้าบ้าน เซลต้า บีโก้ ตามตีเสมอ 1 ประตูต่อ 1
ในนาทีที่ 41 เรอัล มาดริด ทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง David Alaba ได้ไหลบอลให้ Luka Modric ปั่นด้วยขวาข้างถนัดทำให้บอลพุ่งชนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้ ราชันชุดขาว ออกนำไป 2 ประตูต่อ 1 และกรรมการได้เป่าหมดเวลาครึ่งแรก
หลังจากเริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 56 เรอัล มาดริด ได้สวนกลับอย่างเร็ว Luka Modric จ่ายทะลุช่องให้ Vinicius Jr. วิ่งสปีดหลุดเดี่ยวจากครึ่งสนามก่อนที่จะล็อกหลบ Augustine Marchesin เข้าไปยิงได้อย่างง่ายดาย ราชันขุดขาว ได้นำห่างไปเป็น 3 ประตูต่อ 1
ในนาทีที่ 66 เรอัล มาดริด เร่งทำประตูเพิ่มเป็น 4-1 Vinicius Jr. พาบอลขึ้นไปทางซ้ายและจ่ายตัดเข้าในถึง Federico Valverde วิ่งมาซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษบอลพุ่งเข้าไปนอนก้นตาข่ายเข้าไปอีกครั้ง
และในที่นาทีที่ 87 ทีม เรอัล มาดริด ได้จุดโทษอีกครั้ง Eden Hazard ตัวสำรองขออาสาสังหารด้วยตัวเองแต่โดน Augustine Marchesin กระโดดปัดบอลออกมาได้ ถึงแม้ Karim Benzema ตามมาซ้ำแต่ก็ยังติดเซฟของ Augustine Marchesin
หลังจากจบเกม ราชันชุดขาว ได้บุกถล่ม เซลต้า บีโก้ ไปถึง 4 ประตูต่อ 1 ได้รับชัยชนะ 2 นัดติด มีแต้มทั้งหมด 6 แต้ม นำจ่าฝูงได้สำเร็จ