สิ่งที่อยากพูดหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ดึง เชลซี ยิงเมื่อสถานการณ์บีบบังคับ

สิ่งที่อยากพูดหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ดึง เชลซี ยิงเมื่อสถานการณ์บีบบังคับ

เกือบได้ลูกพลัม เอ๊ะ! เกือบติดคอให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าผลงานจะไม่แย่ก็ตาม

ประตูเสียจากจุดโทษในนาทีที่ 87 แต่ Casemiro เป็นฮีโร่ที่ทำให้เสมอภาคในนาทีที่ 94 – เวลาเฟอร์กี้

  1. Erik ten Hag เปลี่ยนผู้เล่นเพียงคนเดียวจากชุดบีบอัดตูดไก่ในกลางสัปดาห์

คริสเตียน อีริคเซ่น ฟิตพร้อมกลับยืนตัวจริงแทนเฟร็ด ผลงานในเกมที่แล้วโดดเด่น อันที่จริงโค้ชปีศาจแดงมักจะจัดทีมตามรูปแบบการเล่นล่าสุด แต่คงไม่วางใจรูปแบบการเล่นของเฟร็ดเรื่องผี-ผีออก ไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าอย่างนั้นฉันยอมให้ Dairy Star เตะกับของจริงดีกว่า

สำหรับ Cristiano Ronaldo นั้นเป็นที่รู้จักกันดี ผลที่ตามมาจากการล่วงละเมิดทางอารมณ์ (ฉันคิดว่าก็ไม่ได้อารมณ์เสียเหมือนกัน แค่ต้องการฉาก) ทำให้เขาถูกตัดออกจากทีมเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์

  1. ขอบอกเลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้แย่มากในครึ่งแรก กับการครองบอลมากขึ้น และมีโอกาสสกัดตาข่ายมากขึ้น แต่ยังขาดความเด็ดขาดเหมือนเดิม

แผนการเล่นคือบีบให้สูงและบดขยี้ไม่ให้เชลซีจ่ายบอลในสนาม

ไม่เพียงแค่นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะจับคู่กับผู้เล่นในท้องถิ่นอย่าง ‘Man to Man’ อีกครั้ง

เห็นแบบนี้ เชลซี ทำอะไรไม่ได้เลย กองกลางคือเกมรองชัดๆ เกมถูกขัดจังหวะ จังหวะบอล 2 เป็นของผู้เข้าชมเกือบทั้งหมด

อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ปีศาจแดงเหนือกว่า

คือ สิงห์บลูส์เล่นในสูตร 3-4-3

ระบบนี้มีมิดฟิลด์ตัวกลางเพียงสองคน คือ รูเบ็น ลอฟตัส-ชีค และจอร์จินโญ่ ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีมิดฟิลด์ตัวกลางสามคน

ดังนั้นถ้ามิดฟิลด์ตัวกลางเพียงสองคนไม่ใช่ ระดับโลกมันจะด้อยกว่าสิ่งนี้

นั่นเป็นเหตุผลที่ Graeme Potter รีบเร่งทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขเกมก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลง

มาร์ค กูกูเรย่า หนึ่งในสามเซ็นเตอร์แบ็คถูกถอดออกเพื่อส่งมาเตโอ โควาซิชไปเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์พร้อมกับปรับเกมให้เป็นระบบ 4-3-3

  1. หลังจากเปลี่ยนและปรับระบบใหม่

อาการของเชลซีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เกมในตำแหน่งกองกลางไม่ได้ด้อยกว่าใน 35 นาทีแรกก่อนที่จะดำเนินต่อในครึ่งหลัง

หลังจากเสียแรงไปบดขยี้มาก

เกมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอ่อนลง ไม่ไล่ตามกองหลังเหมือนครึ่งแรก ขณะที่ เชลซี ยกตัวเองให้สูงขึ้น จึงข่มขู่ผู้มาเยือนมากยิ่งขึ้นในครึ่งหลัง

Graham Potter เป็นตัวสำรองที่ดี เมื่อเขาเห็นว่าทีมของเขาเองกดดันคู่ต่อสู้มากขึ้น บวกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เริ่มอ่อนแรงลง เขาส่งกองหน้าตัวสูงและตัวสูงอย่าง Armando Broya ลงมาโจมตีแนวรับของผู้มาเยือนทันที

  1. จากนั้น เชลซี ก็ได้จุดโทษจากการมีกองหน้าตัวเก่งอย่าง อาร์มันโด โบรย่า

หากเห็นว่าโค้ชสิงห์บลูแก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวที่ดีของ Erik ten Hag ดูเหมือนจะไม่ได้ผลมากนัก

Jadon Sancho สมควรที่จะถูกแย่งชิงไป เพราะการเล่นไม่มีประโยชน์เลย แต่ตัวสำรอง เฟร็ด ที่ลงมาแทน (ย้าย บรูโน่ แฟร์นันเดส ไปทางซ้าย และผลัก คริสเตียน อีริคเซ่น ขึ้นไปอยู่แนวหน้าต่ำ) ไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้นเลย

ไม่ใช่ตัวสำรองอีกคนที่โดนไล่ออกอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ผลักดันทีมให้เสียจุดโทษที่น่าสยดสยอง

เมื่อเขาใช้มือของเขาจับคู่ต่อสู้ของเขาเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม มันต้องฟาล์วแน่ๆ ดังนั้นจึงถูกต้องที่ผู้ตัดสินให้จุดโทษแก่เจ้าบ้าน

‘McTom’ เล่นเสี่ยงเกินไปและวัดกับผู้พิพากษาศาลจนกระทั่งเขาสูญเสียคู่ต่อสู้ของเขา

ตอนที่เชลซีขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 87 มันน่าจะจบลงแล้ว

นาทีนั้น… เด็กผีอย่างผมตัดสินใจล่วงหน้าและเสียใจแทน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เล่นได้ดีมาก

ในที่สุดฉันก็ไม่สามารถคืนจุดเดียวได้

แล้วอุทานในใจว่า เจียเพราะจำได้แต่หัวค่ำ

ฉันจะไปเล่นพิเรนทร์ เขาเก็บไว้ด้วย

  1. แมนฯ ยูไนเต็ด รอดได้อย่างไร???

เวลาที่เหลือพวกเขารวมตัวกันเพื่อเล่นโดยไม่มีอะไรจะเสีย

กำลังดันขึ้นสูงเพื่อเน้นเกมรุกเต็มสปีด โดยพยายามดันบอลเข้าเขตโทษให้มากที่สุด

จนกระทั่งลุค ชอว์เปิดบอลให้ Casemiro ตีลูกเล็กเข้าเสา ก่อนจะกระโดดเกือบข้ามเส้น

ก่อนจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า แต่สังเกตว่าเป็นการบุกรุกของชาวบ้านด้วยความเคารพเพราะยังไม่มีความกล้าพอ

เฉพาะเมื่อสถานการณ์บังคับ พวกเขารีบบอลเข้าไปในพื้นที่โจมตีสุดท้ายมากขึ้นและเร็วขึ้น

และสามารถทำประตูให้เสมอภาคได้สำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก www.siamsport.co.th

บอลออนไลน์ / ทีเด็ดบอล / ผลบอลสด / ไฮไลท์บอล / ตารางบอล / ข่าวบอล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *